
ที่ตั้งของวัด 
วัดจักรวรรดิราชาวาส ตามสภาพปัจจุบันตั้งอยู่ที่ เลขที่ ๒๒๕ ถนนจักรวรรดิ ท้องที่สถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ
แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ๑๐๑๐๐
ชื่อวัด 
วัดจักรวรรดิราชาวาส มีชื่อเรียกทั่วไป ๒ ชื่อ คือ
๑.วัดนางปลื้ม หรือ วัดสามปลื้ม แต่ชื่อที่คุ้นหูสำหรับคนทั่วไปคือ "วัดสามปลื้ม" เป็นชื่อที่ใช้เรียกกันมาแต่โบราณ
ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
๒.วัดจักรวรรดิราชาวาส เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ เมื่อปี พ.ศ.๒๓๖๘
เขตและอุปจาระ 
วัดจักรวรรดิราชาวาส ตั้งอยู่บนเนื้อที่ ๒๑ ไร่ ๑ งาน ๕๘ ตาราง มีอาณาเขตดังนี้
ก.ด้านทิศเหนือ ติดต่อกับตึกแถวให้เช่าของวัดและถนนสำเพ็ง (ถนนวานิช ๑)
ข.ด้านทิศใต้ ติดต่อกับตึกแถวให้เช่าของพระคลังข้างที่และถนนจักรวรรดิ์ กับถนนอนุวงศ์
ค.ด้านทิศตะวันออก ติดต่อกับถนนมหาจักร
ง.ด้านทิศตะวันตก ติดต่อกับตึกแถวให้เช่าของพระคลังข้างที่และตึกแถวของวัด

ความเป็นมาของวัด 
วัดจักรวรรดิราชาวาส เป็นวัดเก่า มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เรียกกันว่า "วัดนางปลื้ม"
บ้าง หรือ
"วัดสามปลื้ม" บ้าง แต่ชื่อที่คุ้นหูสำหรับคนทั่วไปก็คือ "วัดสามปลื้ม" หลักฐานรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังหาไม่พบ
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑ มีพระราชพงศาวดารกล่าวไว้ว่า
" พ.ศ.๒๓๔๓ วันจันทร์ เดือนยี่ ขึ้น ๘ ค่ำ เวลา ๕ โมงเย็น
เกิดเพลิงไหม้ ที่วัดสามปลื้ม ตลอดลงไปถึงตลาดน้อยวัดสำเพ็ง"

ตอนปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑ ต่อมาจนถึงต้นรัชกาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ท่านเจ้าพระยาอภัยราชา (ปิ่น บรรพบุรุษสกุลสิงหเสนี) ได้เป็นผู้เริ่มปฏิสังขรณ์วัดสามปลื้ม แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จก็ถึงแก่ อสัญกรรม

ต่อมา ราวปี พ.ศ. ๒๓๖๒ เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ ต้นสกุลสิงหเสนี) ผู้เป็นบุตรจึงได้ทำการปฏิสังขรณ์
ต่อ โดยมอบให้บุตรชายคนโต ชื่อ นายเกต (เจ้าพระยามุขมนตรี ในรัชกาลที่ ๔) เป็นผู้อำนวยการสร้าง จากด้านเหนือเข้ามาทางด้านใต้
และให้บุตรชายคนรอง ชื่อนายแก้ว (เจ้าพระยายมราช ในรัชกาลที่ ๔ ) เป็นผู้อำนวยการสร้าง จากด้านใต้เข้าไปหาด้านเหนือ บรรจบกันตรงกลาง
ได้สร้างพระอุโบสถ เสนาสนะสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ตลอดจนขุดคูแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาจนถึงสระน้ำซึ่งขุดไว้ใช้ภายในวัด

เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จลง ก็ได้จัดการอาราธนาพระภิกษุจากวัดราชบุรณะบ้าง วัดพระเชตุพนฯ บ้าง
มาอยู่จำพรรษาแล้วน้อมเกล้าถวายเป็นพระอารามหลวง ในสมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า รัชกาลที่ ๓ เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๖๘ และได้
พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดจักรวรรดิราชาวาส วรมหาวิหาร"
|